การพัฒนาโปรแกรมพัฒนาทักษะการจัดการเรียนรู้ของครู
แก้ปัญหาของนักเรียน โดยใช้แนวคิดชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC)
ผู้วิจัย นายกฤษดา โสภา
สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
สำนักการศึกษา เทศบาลนครอุดรธานี
ปีที่วิจัย 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาองค์ประกอบและตัวชี้วัดของทักษะการจัดการเรียนรู้ของครู เพื่อส่งเสริมการคิดและแก้ปัญหาของนักเรียน 2) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์และวิธีการเสริมสร้างทักษะการจัดการเรียนรู้ของครู เพื่อส่งเสริมการคิดและแก้ปัญหาของนักเรียน 3) เพื่อสร้างโปรแกรมทักษะการจัดการเรียนรู้ของครู เพื่อส่งเสริมการคิดและแก้ปัญหาของนักเรียน โดยใช้แนวคิดชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) แบ่งการวิจัยออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ศึกษาองค์ประกอบและตัวชี้วัดของทักษะการจัดการเรียนรู้ของครู เพื่อส่งเสริมการคิดและแก้ปัญหาของนักเรียน กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน เพื่อยืนยันความเหมาะสมขององค์ประกอบและตัวชี้วัดของทักษะการจัดการเรียนรู้ของครู ระยะที่ 2 ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์และวิธีการเสริมสร้างทักษะการจัดการเรียนรู้ของครู เพื่อส่งเสริมการคิดและแก้ปัญหาของนักเรียน
กลุ่มเป้าหมาย คือ ข้าราชการครูในโรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี สังกัดสำนักการศึกษาเทศบาลนครอุดรธานี ปีการศึกษา 2560 จำนวน 70 คน ระยะที่ 3 สร้างโปรแกรมทักษะการจัดการเรียนรู้ของครู เพื่อส่งเสริมการคิดและแก้ปัญหาของนักเรียน โดยใช้แนวคิดชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) กลุ่มผู้ให้ข้อมูล คือ กลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 คน
เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม และแบบสอบถาม แบบประเมินโปรแกรม สถิติที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. องค์ประกอบและตัวชี้วัดของทักษะการจัดการเรียนรู้ของครู มีองค์ประกอบจำนวน 5 องค์ประกอบ 15 ตัวชี้วัด ได้แก่ 1) ด้านการบูรณาการฝึกทักษะการคิดและแก้ปัญหาเนื้อหาในกลุ่มสาระการเรียนรู้ 2) ด้านการออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นเน้นทักษะการคิดและแก้ปัญหา 3) ด้านการใช้รูปแบบและเทคนิควิธีการสอนด้านการคิดและแก้ปัญหา 4) ด้านการพัฒนาสื่อและนวัตกรรมที่เน้นการคิดและแก้ปัญหา และ 5) ด้านการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ผลการประเมินองค์ประกอบการจัดการเรียนรู้ของครู พบว่า ทั้งทุกองค์ประกอบมีความเหมาะสมอยู่ในเกณฑ์ระหว่าง 0.60-1.00
2. ผลการศึกษาสภาพปัจจุบันของการจัดการเรียนรู้ของครู โดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.41 และสภาพที่พึงประสงค์ของการจัดการเรียนรู้ของครู โดยรวมมีค่าเฉลี่ยระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.42
3. โปรแกรมพัฒนาทักษะการจัดการเรียนรู้ของครู เพื่อส่งเสริมการคิดและแก้ปัญหาของนักเรียน มีองค์ประกอบดังนี้คือ หลักการ วัตถุประสงค์ เนื้อหา วิธีการพัฒนา และการประเมินผล เพื่อพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้ ผู้วิจัยได้ออกแบบเนื้อหาของโปรแกรมโดยเน้นเนื้อหาตามค่าดัชนีความต้องการจำเป็นที่มีความต้องการอันดับแรก คือ การพัฒนาสื่อและนวัตกรรมที่เน้นการคิดและแก้ปัญหา (PNImodified = 0.26) การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ (PNImodified =0.25) การออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นทักษะการคิดและแก้ปัญหา (PNImodified =0.24) การใช้รูปแบบและเทคนิควิธีการสอนด้านการคิดและแก้ปัญหา (PNImodified =0.23) และการบูรณาการฝึกทักษะการคิดและแก้ปัญหาวิเคราะห์เนื้อหาในกลุ่มสาระการเรียนรู้ (PNImodified =0.17) ตามลำดับ วิธีการพัฒนาโดยใช้แนวคิดชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ประกอบด้วย กิจกรรม การฝึกอบรม การใช้ระบบ พี่เลี้ยง และการนิเทศ ผลการประเมินโปรแกรมพัฒนาโดยผู้ทรงคุณวุฒิพบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมา