การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ ชุด
ชื่อเรื่อง การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ ชุด Let’s learn to read. โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบ Active learning สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ชื่อผู้ศึกษา นางสาวรำไพ บุตรพรม
หน่วยงาน โรงเรียนบ้านทุ่งนาค สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1
ปีที่ศึกษา ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ ชุด Let’s learn to read. โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ ชุด Let’s learn to read. โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังการเรียนรู้โดยใช้การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ ชุด Let’s learn to read. โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning 3) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ ชุด Let’s learn to read. โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านทุ่งนาค สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1 ซึ่งกำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 12 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการ ศึกษาประกอบด้วย 1) แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ ชุด Let’s learn to read. สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 7 เล่ม 2) แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ ชุด Let’s learn to read. จำนวน 14 แผน ใช้เวลา 14 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบปรนัย จำนวน 30 ข้อ และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญชุด Let’s learn to read. สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบสมมติฐานด้วย t - test (Dependent)
ผลการศึกษาพบว่า
1. แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ ชุด Let’s learn to read. โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้ศึกษาพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.37/82.22 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ ชุด Let’s learn to read. สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนการเรียนรู้และภายหลังการเรียนรู้ พบว่าคะแนนเฉลี่ยจากการทำแบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภายหลังการเรียนรู้ สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยจากการทดสอบก่อนการเรียนรู้ แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01
3. ดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ ชุด Let’s learn to read. สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.6862 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นจากก่อนเรียนคิดเป็นร้อยละ 68.62
4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ ชุด Let’s learn to read. โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับมาก
ชื่อผู้ศึกษา นางสาวรำไพ บุตรพรม
หน่วยงาน โรงเรียนบ้านทุ่งนาค สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1
ปีที่ศึกษา ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ ชุด Let’s learn to read. โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ ชุด Let’s learn to read. โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังการเรียนรู้โดยใช้การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ ชุด Let’s learn to read. โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning 3) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ ชุด Let’s learn to read. โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านทุ่งนาค สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1 ซึ่งกำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 12 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการ ศึกษาประกอบด้วย 1) แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ ชุด Let’s learn to read. สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 7 เล่ม 2) แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ ชุด Let’s learn to read. จำนวน 14 แผน ใช้เวลา 14 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบปรนัย จำนวน 30 ข้อ และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญชุด Let’s learn to read. สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบสมมติฐานด้วย t - test (Dependent)
ผลการศึกษาพบว่า
1. แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ ชุด Let’s learn to read. โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้ศึกษาพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.37/82.22 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ ชุด Let’s learn to read. สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนการเรียนรู้และภายหลังการเรียนรู้ พบว่าคะแนนเฉลี่ยจากการทำแบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภายหลังการเรียนรู้ สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยจากการทดสอบก่อนการเรียนรู้ แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01
3. ดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ ชุด Let’s learn to read. สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.6862 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นจากก่อนเรียนคิดเป็นร้อยละ 68.62
4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ ชุด Let’s learn to read. โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับมาก