รายงานผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ ด้วยวิธี SQ4R
บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง : รายงานผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ด้วยวิธี SQ4R กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ชื่อผู้รายงาน : ประกาศิต วิชา
ปีที่ทำการศึกษา : 2561
การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ด้วยวิธี SQ4R กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านก๊อหลวง อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ด้วยวิธี SQ4R กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางด้านการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ด้วยวิธี SQ4R กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ด้วยวิธี SQ4R กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนบ้านก๊อหลวง อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา จำนวน 8 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ด้วยวิธี SQ4R กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 6 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ จำนวน 20 แผน แผนละ 1 ชั่วโมง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางด้านการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ จำนวน 20 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ด้วยวิธี SQ4R กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูล ได้นำข้อมูลมาวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ด้วยวิธี SQ4R การหาค่า E1/E2 เทียบกับเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ด้วยวิธี SQ4R ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ด้วยวิธี SQ4R โดยการหาค่าเฉลี่ย (μ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (σ) และ ค่าร้อยละ วิเคราะห์หาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ด้วยวิธี SQ4R โดยการหาค่าเฉลี่ย(μ)และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(σ) ผลการศึกษาพบว่า
ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ด้วยวิธี SQ4R กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประสิทธิภาพเท่ากับ 90.63/91.25 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80
ผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ด้วยวิธี SQ4R หลังการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ด้วยวิธี SQ4R กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 17.88 คิดเป็นร้อยละ 71.50 สูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 10.50 คิดเป็นร้อยละ 42.00
ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ด้วยวิธี SQ4R กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.77 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.33
ชื่อเรื่อง : รายงานผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ด้วยวิธี SQ4R กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ชื่อผู้รายงาน : ประกาศิต วิชา
ปีที่ทำการศึกษา : 2561
การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ด้วยวิธี SQ4R กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านก๊อหลวง อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ด้วยวิธี SQ4R กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางด้านการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ด้วยวิธี SQ4R กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ด้วยวิธี SQ4R กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนบ้านก๊อหลวง อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา จำนวน 8 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ด้วยวิธี SQ4R กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 6 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ จำนวน 20 แผน แผนละ 1 ชั่วโมง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางด้านการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ จำนวน 20 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ด้วยวิธี SQ4R กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูล ได้นำข้อมูลมาวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ด้วยวิธี SQ4R การหาค่า E1/E2 เทียบกับเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ด้วยวิธี SQ4R ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ด้วยวิธี SQ4R โดยการหาค่าเฉลี่ย (μ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (σ) และ ค่าร้อยละ วิเคราะห์หาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ด้วยวิธี SQ4R โดยการหาค่าเฉลี่ย(μ)และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(σ) ผลการศึกษาพบว่า
ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ด้วยวิธี SQ4R กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประสิทธิภาพเท่ากับ 90.63/91.25 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80
ผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ด้วยวิธี SQ4R หลังการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ด้วยวิธี SQ4R กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 17.88 คิดเป็นร้อยละ 71.50 สูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 10.50 คิดเป็นร้อยละ 42.00
ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ ด้วยวิธี SQ4R กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.77 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.33