แบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือ
ชื่อเรื่อง การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI
ผู้วิจัย นางรวีวรรณ ยงทวี
สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดสระทอง
สังกัดเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ ด้วยเทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่าน คิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาลวัดสระทอง สังกัดเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 1 ห้องเรียน มีนักเรียนทั้งหมด 36 คน ซึ่งเลือกโดยการใช้วิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Custer Random Sampling) ด้วยการจับสลากโดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือ TAI จำนวน 6 เล่ม 2) แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้แบบฝึกทักษะ การอ่านคิดวิเคราะห์ ด้วยเทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือ TAI จำนวน 14 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อมีค่าความยาก (p) ตั้งแต่ .20 - .80 มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (r) ตั้งแต่ .20 – .70 และค่าความเชื่อมั่น ทั้งฉบับเท่ากับ .87 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อ แบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือ TAI เป็นชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามทั้งฉบับเท่ากับ .86
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐาน ใช้สูตร t–test (Dependent Samples)
ผลการวิจัยพบว่า
1. การจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI มีประสิทธิภาพ
( / ) เท่ากับ 86.12/85.09 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI มีค่าเท่ากับ 0.7013 แสดงว่า นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI มีความ
ก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 70.13
3. นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้
ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI มีความพึงพอใจโดยรวมมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.69 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.44 แสดงว่า นักเรียน มีความพึงพอใจต่อแบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถม
ศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI อยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด และเมื่อจำแนกเป็นรายข้อพบว่านักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุดทุกข้อ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI
ผู้วิจัย นางรวีวรรณ ยงทวี
สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดสระทอง
สังกัดเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ ด้วยเทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่าน คิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาลวัดสระทอง สังกัดเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 1 ห้องเรียน มีนักเรียนทั้งหมด 36 คน ซึ่งเลือกโดยการใช้วิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Custer Random Sampling) ด้วยการจับสลากโดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือ TAI จำนวน 6 เล่ม 2) แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้แบบฝึกทักษะ การอ่านคิดวิเคราะห์ ด้วยเทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือ TAI จำนวน 14 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อมีค่าความยาก (p) ตั้งแต่ .20 - .80 มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (r) ตั้งแต่ .20 – .70 และค่าความเชื่อมั่น ทั้งฉบับเท่ากับ .87 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อ แบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือ TAI เป็นชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามทั้งฉบับเท่ากับ .86
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐาน ใช้สูตร t–test (Dependent Samples)
ผลการวิจัยพบว่า
1. การจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI มีประสิทธิภาพ
( / ) เท่ากับ 86.12/85.09 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI มีค่าเท่ากับ 0.7013 แสดงว่า นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI มีความ
ก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 70.13
3. นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้
ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI มีความพึงพอใจโดยรวมมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.69 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.44 แสดงว่า นักเรียน มีความพึงพอใจต่อแบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถม
ศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI อยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด และเมื่อจำแนกเป็นรายข้อพบว่านักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุดทุกข้อ