การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์เรื่องการแยกตัวประกอบ
ชื่อวิจัย การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสอง
โดยใช้แบบฝึกทักษะ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนกำแพงวิทยา จังหวัดสตูล
ผู้วิจัย นางศุภิกา สะหมัดหานาย
ปีที่ทำวิจัย 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เรื่องการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสอง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสอง ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนกำแพงวิทยา และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียน โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่องการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 2
กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/8 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนกำแพงวิทยา จังหวัดสตูล จำนวน 45 คน ได้มาจากการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบง่ายโดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วยแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสอง จำนวน 4 เล่ม คือ เล่มที่ 1 เรื่องการแยกตัวประกอบโดยใช้สมบัติการแจกแจง เล่มที่ 2 เรื่องการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสองตัวแปรเดียว เล่มที่ 3 เรื่องการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสองที่เป็นกำลังสองสมบูรณ์ และเล่มที่ 4 เรื่องการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสองที่เป็นผลต่างกำลังสอง แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสอง จำนวน 6 แผน ใช้เวลาทั้งสิ้น 18 ชั่วโมง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ซึ่งเป็นแบบทดสอบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ แบบทดสอบก่อนเรียนหลังเรียนประจำเล่มของแบบฝึกทักษะ จำนวน 4 เล่ม ซึ่งเป็นแบบทดสอบปรนัย 4 ตัวเลือก เล่มละ 10 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และวิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างคะแนนก่อนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะโดยใช้ค่าสถิติ t-test ผลการวิจัย พบว่า
1. แบบฝึกทักษะ วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสองสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ (E1/E2 ) เท่ากับ 83.08/81.10
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสอง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะ มีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสองโดยใช้แบบฝึกทักษะ นักเรียน มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด ( = 4.54)
โดยใช้แบบฝึกทักษะ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนกำแพงวิทยา จังหวัดสตูล
ผู้วิจัย นางศุภิกา สะหมัดหานาย
ปีที่ทำวิจัย 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เรื่องการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสอง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสอง ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนกำแพงวิทยา และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียน โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่องการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 2
กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/8 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนกำแพงวิทยา จังหวัดสตูล จำนวน 45 คน ได้มาจากการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบง่ายโดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วยแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสอง จำนวน 4 เล่ม คือ เล่มที่ 1 เรื่องการแยกตัวประกอบโดยใช้สมบัติการแจกแจง เล่มที่ 2 เรื่องการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสองตัวแปรเดียว เล่มที่ 3 เรื่องการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสองที่เป็นกำลังสองสมบูรณ์ และเล่มที่ 4 เรื่องการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสองที่เป็นผลต่างกำลังสอง แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสอง จำนวน 6 แผน ใช้เวลาทั้งสิ้น 18 ชั่วโมง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ซึ่งเป็นแบบทดสอบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ แบบทดสอบก่อนเรียนหลังเรียนประจำเล่มของแบบฝึกทักษะ จำนวน 4 เล่ม ซึ่งเป็นแบบทดสอบปรนัย 4 ตัวเลือก เล่มละ 10 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และวิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างคะแนนก่อนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะโดยใช้ค่าสถิติ t-test ผลการวิจัย พบว่า
1. แบบฝึกทักษะ วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสองสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ (E1/E2 ) เท่ากับ 83.08/81.10
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสอง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะ มีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสองโดยใช้แบบฝึกทักษะ นักเรียน มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด ( = 4.54)