LASTEST NEWS

29 มี.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 29 มี.ค. 2567อ.ก.ค.ศ.สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ รับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2567 จำนวน 62 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 5-11 เม.ย.2567 29 มี.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 29 มี.ค. 2567สพป.กำแพงเพชร เขต 1 รับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2567 จำนวน 14 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 5-11 เม.ย.2567 28 มี.ค. 2567สพม.นครราชสีมา รับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2567 จำนวน 20 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 5-11 เม.ย.2567 28 มี.ค. 2567สพป.นครราชสีมา เขต 6 รับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2567 จำนวน 27 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 5-11 เม.ย.2567 28 มี.ค. 2567สพป.นครราชสีมา เขต 5 รับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2567 จำนวน 32 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 5-11 เม.ย.2567 28 มี.ค. 2567สพป.นครราชสีมา เขต 4 รับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2567 จำนวน 15 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 5-11 เม.ย.2567 28 มี.ค. 2567สพป.นครราชสีมา เขต 3 รับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2567 จำนวน 25 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 5-11 เม.ย.2567 28 มี.ค. 2567สพป.นครราชสีมา เขต 2 รับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2567 จำนวน 19 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 5-11 เม.ย.2567

การพัฒนากระบวนการสอนคณิตศาสตร์แบบ R-A-D-T-R-C เพื่อพัฒนาทักษะ

usericon

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนากระบวนการสอนคณิตศาสตร์ แบบ R-A-D-T-R-C เพื่อพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อสร้างและพัฒนากระบวนการสอนคณิตศาสตร์ แบบ R-A-D-T-R-C เพื่อพัฒนาทักษะ การแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 3 (หล่ายอิงราษฎร์บำรุง) ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 3) เพื่อทดลองใช้กระบวนการสอนคณิตศาสตร์ แบบ R-A-D-T-R-C เพื่อพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 3 (หล่ายอิงราษฎร์บำรุง) ให้มีประสิทธิผล 4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสอนคณิตศาสตร์ แบบ R-A-D-T-R-C เพื่อพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 3 (หล่ายอิงราษฎร์บำรุง) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเทศบาล 3 (หล่ายอิงราษฎร์บำรุง) จำนวน 13 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการเลือก แบบเจาะจง (Purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ การพัฒนากระบวนการสอนคณิตศาสตร์ แบบ R-A-D-T-R-C เพื่อพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เครื่องมือที่ใช้ ในการรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 19 แผน แบบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน และแบบประเมินความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ การหาค่า E1/E2 การทดสอบค่า t (t-test) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
    ผลการวิจัย พบว่า 1) นักเรียนส่วนใหญ่ยังไม่พึงพอใจในผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาคณิตศาสตร์ของตนเอง นักเรียนส่วนใหญ่ไม่ชอบเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เพราะเป็นวิชาที่ยาก น่าเบื่อ มีการคิดวิเคราะห์โจทย์ปัญหาที่ยุ่งยากซับซ้อน ทำให้ไม่อยากเรียน ไม่อยากคิดคำนวณ และเนื้อหาวิชาที่นักเรียนคิดว่ายากที่สุดในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ทำให้ไม่อยากเรียน คือ การแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง แก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณหารระคนต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่โรงเรียนกำหนดไว้ นักเรียนส่วนใหญ่แสดงความคิดเห็นว่าครูควรจัดกระบวนการเรียนการสอน การแก้โจทย์ปัญหาที่แปลกใหม่ น่าสนใจ นักเรียนสามารถจดจำขั้นตอนได้ง่าย และนักเรียน ส่วนใหญ่ยังแสดงความคิดเห็นว่าต้องการให้ครูจัดกระบวนการสอนการแก้โจทย์ปัญหา โดยมีกระบวนการแก้โจทย์ปัญหา ดังนี้ อ่านทำความเข้าใจโจทย์ วิเคราะห์ วางแผน วาดรูปบาร์โมเดล ลงมือคิดคำนวณ ความสมเหตุสมผล และตรวจคำตอบ 2) กระบวนการสอนคณิตศาสตร์ แบบ R-A-D-T-R-C เพื่อพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน กลุ่มสาระ การเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 92.96/95.16 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 3) ทดลองใช้กระบวนการสอนคณิตศาสตร์ แบบ R-A-D-T-R-C เพื่อพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 19 แผน รวม 19 ชั่วโมง มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.95 แสดงว่า นักเรียนมีความรู้หลังเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 95 และเมื่อตรวจสอบความแตกต่างของคะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยสถิติ t-test พบค่า t=53.57 มีระดับนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ 0.01 จึงกล่าวได้ว่ากระบวนการสอนคณิตศาสตร์ แบบ R-A-D-T-R-C เพื่อพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ช่วยให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงขึ้นกว่า ก่อนเรียน 4) ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสอนคณิตศาสตร์ แบบ R-A-D-T-R-C เพื่อพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน กลุ่มสาระ การเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า โดยภาพรวมนักเรียน มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.95 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.12

Artitaya1981 29 ส.ค. 2561 เวลา 19:49 น. 0 775
ร่วมแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^