การพัฒนาชุดฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์และวิจารณ์ ชั้น ม.3
ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์และวิจารณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท23102
ผู้วิจัย นางสาวรัชช์ชา เจริญ
โรงเรียน ขุขันธ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาชุดฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์และวิจารณ์
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท23102 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 เพื่อวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิผลของชุดฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์และวิจารณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท23102 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การอ่านวิเคราะห์และวิจารณ์ของนักเรียน ก่อนและหลังการทดลองใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์และวิจารณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์และวิจารณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท23102
กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/11 โรงเรียนขุขันธ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 36 คนได้มาโดยการสุ่มแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย ชุดฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์และวิจารณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท23102 จำนวน 8 ชุด แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์และวิจารณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท23102 จำนวน 14 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การอ่านวิเคราะห์และวิจารณ์ เป็นแบบทดสอบแบบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ ที่มีความยาก (p) ตั้งแต่ 0.33 – 0.76 มีค่าอำนาจจำแนก (r) เท่ากับ 0.35-0.84 ค่าความเชื่อมั่น (r cc) เท่ากับ 0.79 แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์และวิจารณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท23102 จำนวน 10 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่น หรือ สัมประสิทธิ์แอลฟา เท่ากับ 0.89 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าดัชนีประสิทธิผล และการทดสอบสมมติฐานใช้ t–test (Dependent samples)
ผลการวิจัย ปรากฏดังนี้
1. ชุดฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์วิจารณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.89/82.25 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนาชุดฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์และวิจารณ์ ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท23102 มีค่าเท่ากับ 0.6362 ผู้เรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้น 0.6362 คิดเป็นร้อยละ 61.63
3. นักเรียนที่เรียนด้วยชุดฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์และวิจารณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์และวิจารณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท23102 ในระดับมาก
รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท23102
ผู้วิจัย นางสาวรัชช์ชา เจริญ
โรงเรียน ขุขันธ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาชุดฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์และวิจารณ์
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท23102 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 เพื่อวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิผลของชุดฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์และวิจารณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท23102 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การอ่านวิเคราะห์และวิจารณ์ของนักเรียน ก่อนและหลังการทดลองใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์และวิจารณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์และวิจารณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท23102
กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/11 โรงเรียนขุขันธ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 36 คนได้มาโดยการสุ่มแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย ชุดฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์และวิจารณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท23102 จำนวน 8 ชุด แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์และวิจารณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท23102 จำนวน 14 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การอ่านวิเคราะห์และวิจารณ์ เป็นแบบทดสอบแบบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ ที่มีความยาก (p) ตั้งแต่ 0.33 – 0.76 มีค่าอำนาจจำแนก (r) เท่ากับ 0.35-0.84 ค่าความเชื่อมั่น (r cc) เท่ากับ 0.79 แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์และวิจารณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท23102 จำนวน 10 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่น หรือ สัมประสิทธิ์แอลฟา เท่ากับ 0.89 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าดัชนีประสิทธิผล และการทดสอบสมมติฐานใช้ t–test (Dependent samples)
ผลการวิจัย ปรากฏดังนี้
1. ชุดฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์วิจารณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.89/82.25 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนาชุดฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์และวิจารณ์ ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท23102 มีค่าเท่ากับ 0.6362 ผู้เรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้น 0.6362 คิดเป็นร้อยละ 61.63
3. นักเรียนที่เรียนด้วยชุดฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์และวิจารณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์และวิจารณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท23102 ในระดับมาก