รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านเชิงวิจารณญาณ อ่านต่อได้
วิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้ศึกษาค้นคว้า นางฐนนท์พร ภูคำไพร์
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
สถานศึกษา โรงเรียนน้ำโสมพิทยาคม ปีที่พิมพ์ 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านเชิงวิจารณญาณ วิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านเชิงวิจารณญาณ และ 3) เพื่อศึกษาผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านเชิงวิจารณญาณ วิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนน้ำโสมพิทยาคม อำเภอน้ำโสม จังหวัดอุดรธานี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 37 คน ได้มาโดยการเลือก แบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ คือ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านเชิงวิจารณญาณ วิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง All Around the World จำนวน 1 เล่ม 7 แผน 2) แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านเชิงวิจารณญาณ วิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 7 เล่ม 3) แบบทดสอบย่อยของแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านเชิงวิจารณญาณ วิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 7 ฉบับ ๆ ละ 10 ข้อ 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านเชิงวิจารณญาณ วิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เป็นแบบทดสอบแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ตามระดับขั้นการคิดของ Bloom’s Taxonomy สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานใช้ t – test (Dependent Samples)
ผลการศึกษาค้นคว้าปรากฏดังนี้
1. แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านเพื่อจับใจความ วิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 83.51/83.96 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านเชิงวิจารณญาณ วิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.66 หมายความว่า นักเรียนมีความรู้จากการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านเชิงวิจารณญาณ เพิ่มขึ้นร้อยละ 66.00
3. นักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านเชิงวิจารณญาณ วิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01