รายงานผลการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก การลบ และการค
บทคัดย่อ
ปัจจุบันการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ยังไม่บรรลุผลตามเกณฑ์มาตรฐาน โดยเฉพาะด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ อาจเนื่องมาจากกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ไม่สนองตอบกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียน การใช้สื่อหรือนวัตกรรมประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ไม่น่าสนใจ ส่งผลให้ผู้เรียนไม่ได้รับการพัฒนาเต็ม ตามศักยภาพ ดังนั้นผู้วิจัยจึงได้พัฒนาสื่อประเภทแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์มาประกอบในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการบวก การลบ และการคูณทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการบวก การลบ และการคูณทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการบวก การลบ และการคูณทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนวัดสามควายเผือก อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1 จำนวน 24 คน จาก 1 ห้องเรียน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ได้แก่ (1) แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการบวก การลบ และการคูณทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 5 เล่ม (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ เป็นแบบทดสอบชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก (3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ แบบแผนการทดลองเป็นแบบ Pre Experimental Design แบบ One Group Pretest-posttest Design วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ( ) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที (t – test) แบบ dependent ผลการศึกษาพบว่า
1. แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการบวก การลบ และการคูณทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 83.92/86.94 แสดงว่าประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการบวก การลบ และการคูณทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เมื่อนำไปหาค่า t – test มีค่าเท่ากับ 26.31 โดยมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการบวก การลบ และการคูณทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
ปัจจุบันการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ยังไม่บรรลุผลตามเกณฑ์มาตรฐาน โดยเฉพาะด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ อาจเนื่องมาจากกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ไม่สนองตอบกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียน การใช้สื่อหรือนวัตกรรมประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ไม่น่าสนใจ ส่งผลให้ผู้เรียนไม่ได้รับการพัฒนาเต็ม ตามศักยภาพ ดังนั้นผู้วิจัยจึงได้พัฒนาสื่อประเภทแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์มาประกอบในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการบวก การลบ และการคูณทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการบวก การลบ และการคูณทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการบวก การลบ และการคูณทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนวัดสามควายเผือก อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1 จำนวน 24 คน จาก 1 ห้องเรียน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ได้แก่ (1) แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการบวก การลบ และการคูณทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 5 เล่ม (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ เป็นแบบทดสอบชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก (3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ แบบแผนการทดลองเป็นแบบ Pre Experimental Design แบบ One Group Pretest-posttest Design วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ( ) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที (t – test) แบบ dependent ผลการศึกษาพบว่า
1. แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการบวก การลบ และการคูณทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 83.92/86.94 แสดงว่าประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการบวก การลบ และการคูณทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เมื่อนำไปหาค่า t – test มีค่าเท่ากับ 26.31 โดยมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการบวก การลบ และการคูณทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด