นางกาบจันทร์ วงค์พุทธคำ เผยแพร่ผลงาน
บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง การพัฒนาความสามารถด้านการฟังและการพูดโดยใช้นิทานประกอบภาพและเกมฝึกทักษะทางภาษา ของเด็กอนุบาลปีที่ 3
ผู้ศึกษา นางกาบจันทร์ วงค์พุทธคำ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1). เพื่อหาประสิทธิภาพของนิทานประกอบภาพและเกมฝึกทักษะทางภาษาที่พัฒนาความสามารถทางภาษาด้านการฟัง และการพูดของเด็กอนุบาลปีที่ 3
ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2). เพื่อศึกษาความสามารถทางภาษาด้านการฟังและการพูด
ของเด็กอนุบาลปีที่ 3 หลังการจัดประสบการณ์โดยใช้นิทานประกอบภาพและเกมฝึกทักษะทางภาษาเทียบกับเกณฑ์ร้อยละ 80 3). เพื่อศึกษาความพึงพอใจของเด็กอนุบาลปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนการสอนด้วยนิทานประกอบภาพและเกมฝึกทักษะทางภาษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ เด็กอนุบาลปีที่ 3/1 จำนวน 30 คน ที่กำลังศึกษาอยู่ใน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนเทศบาลวัดเหมืองแดง เทศบาลเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย 1).นิทานประกอบภาพ 10 เรื่อง และเกมฝึกทักษะทางภาษา จำนวน 25 เกม 2).แผนการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์โดยใช้นิทานประกอบภาพและเกมฝึกทักษะทางภาษา เพื่อพัฒนาความสามารถทางภาษาด้านการฟัง และการพูด จำนวน 10 หน่วย รวมทั้งหมด 50 แผน แผนละ 20 นาที 3). แบบทดสอบวัดความสามารถทางภาษาด้านการฟังและการพูดของเด็กอนุบาลปีที่ 3 จำนวน 20 ข้อ 4). แบบประเมินความพร้อมด้านการฟัง และการพูด โดยการสังเกตพฤติกรรมทางภาษาขณะเด็กร่วมกิจกรรม ตามแผนการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ โดยใช้นิทานประกอบภาพและเกมฝึกทักษะทางภาษาจำนวน 10 หน่วย หน่วยละ 1 ครั้ง รวม 10 ครั้ง’5).แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนการสอนด้วยนิทานประกอบภาพ และเกมฝึกทักษะทางภาษา การวิเคราะห์ข้อมูล หาประสิทธิภาพของเกมฝึกทักษะทางภาษาเพื่อพัฒนาความสามารถทางภาษาด้านการฟังและการพูด ตามเกณฑ์ 80/80 เปรียบเทียบความสามารถด้านการฟังและการพูดใช้ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) ทดสอบ ค่า t – test แบบ dependent
ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของนิทานประกอบภาพและเกมฝึกทักษะทางภาษาเพื่อพัฒนาความสามารถด้านการฟังและการพูดของเด็กอนุบาลปีที่ 3 สรุปผลได้ดังนี้
1.1 นิทานประกอบภาพพัฒนาความสามารถทางภาษาด้านความเข้าใจเรื่องราวในการฟัง
มีประสิทธิภาพเท่ากับ 80.10/82.40 ด้านการพูดเล่าเรื่องสัมพันธ์กับภาพมีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.90/91.40
1.2 เกมฝึกทักษะทางภาษาพัฒนาความสามารถทางภาษาด้านการฟังคำสั่งและปฏิบัติ
ตามมีประสิทธิภาพเท่ากับ 90.04/88.00
2. ความสามารถทางภาษาด้านการฟังและการพูดของเด็กอนุบาลปีที่ 3 มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น
ทุกด้าน ดังนี้
2.1 เมื่อใช้นิทานประกอบภาพ พัฒนาความสามารถทางภาษา ของเด็กอนุบาลปีที่ 3 ด้านความเข้าใจเรื่องราวในการฟัง พบว่าการทดสอบหลังเรียน คิดเป็นร้อยละ 82.40 และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างเกณฑ์ กับคะแนนทดสอบหลังเรียนของเด็กพบว่า คะแนนสอบหลังเรียน สูงกว่าเกณฑ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนด้านการพูดเล่าเรื่องสัมพันธ์กับภาพ การทดสอบหลังเรียน คิดเป็นร้อยละ 91.40 และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างเกณฑ์กับคะแนนทดสอบหลังเรียนของเด็กพบว่า คะแนนทดสอบหลังเรียนของเด็กอนุบาลปีที่ 3 สูงกว่าเกณฑ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2.2 เมื่อใช้เกมฝึกทักษะทางภาษา พัฒนาความสามารถทางภาษาของเด็กอนุบาลปีที่ 3
ด้านความเข้าใจคำสั่งและปฏิบัติตาม พบว่าการทดสอบหลังเรียน คิดเป็นร้อยละ 88.00 และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างเกณฑ์กับคะแนนทดสอบหลังเรียนของเด็กพบว่า คะแนนทดสอบหลังเรียน สูงกว่าเกณฑ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. เด็กอนุบาลปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดการเรียนการสอนด้วยนิทานประกอบภาพและเกมฝึกทักษะทางภาษา โดยภาพรวมนักเรียนมีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก
ชื่อเรื่อง การพัฒนาความสามารถด้านการฟังและการพูดโดยใช้นิทานประกอบภาพและเกมฝึกทักษะทางภาษา ของเด็กอนุบาลปีที่ 3
ผู้ศึกษา นางกาบจันทร์ วงค์พุทธคำ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1). เพื่อหาประสิทธิภาพของนิทานประกอบภาพและเกมฝึกทักษะทางภาษาที่พัฒนาความสามารถทางภาษาด้านการฟัง และการพูดของเด็กอนุบาลปีที่ 3
ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2). เพื่อศึกษาความสามารถทางภาษาด้านการฟังและการพูด
ของเด็กอนุบาลปีที่ 3 หลังการจัดประสบการณ์โดยใช้นิทานประกอบภาพและเกมฝึกทักษะทางภาษาเทียบกับเกณฑ์ร้อยละ 80 3). เพื่อศึกษาความพึงพอใจของเด็กอนุบาลปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนการสอนด้วยนิทานประกอบภาพและเกมฝึกทักษะทางภาษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ เด็กอนุบาลปีที่ 3/1 จำนวน 30 คน ที่กำลังศึกษาอยู่ใน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนเทศบาลวัดเหมืองแดง เทศบาลเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย 1).นิทานประกอบภาพ 10 เรื่อง และเกมฝึกทักษะทางภาษา จำนวน 25 เกม 2).แผนการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์โดยใช้นิทานประกอบภาพและเกมฝึกทักษะทางภาษา เพื่อพัฒนาความสามารถทางภาษาด้านการฟัง และการพูด จำนวน 10 หน่วย รวมทั้งหมด 50 แผน แผนละ 20 นาที 3). แบบทดสอบวัดความสามารถทางภาษาด้านการฟังและการพูดของเด็กอนุบาลปีที่ 3 จำนวน 20 ข้อ 4). แบบประเมินความพร้อมด้านการฟัง และการพูด โดยการสังเกตพฤติกรรมทางภาษาขณะเด็กร่วมกิจกรรม ตามแผนการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ โดยใช้นิทานประกอบภาพและเกมฝึกทักษะทางภาษาจำนวน 10 หน่วย หน่วยละ 1 ครั้ง รวม 10 ครั้ง’5).แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนการสอนด้วยนิทานประกอบภาพ และเกมฝึกทักษะทางภาษา การวิเคราะห์ข้อมูล หาประสิทธิภาพของเกมฝึกทักษะทางภาษาเพื่อพัฒนาความสามารถทางภาษาด้านการฟังและการพูด ตามเกณฑ์ 80/80 เปรียบเทียบความสามารถด้านการฟังและการพูดใช้ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) ทดสอบ ค่า t – test แบบ dependent
ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของนิทานประกอบภาพและเกมฝึกทักษะทางภาษาเพื่อพัฒนาความสามารถด้านการฟังและการพูดของเด็กอนุบาลปีที่ 3 สรุปผลได้ดังนี้
1.1 นิทานประกอบภาพพัฒนาความสามารถทางภาษาด้านความเข้าใจเรื่องราวในการฟัง
มีประสิทธิภาพเท่ากับ 80.10/82.40 ด้านการพูดเล่าเรื่องสัมพันธ์กับภาพมีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.90/91.40
1.2 เกมฝึกทักษะทางภาษาพัฒนาความสามารถทางภาษาด้านการฟังคำสั่งและปฏิบัติ
ตามมีประสิทธิภาพเท่ากับ 90.04/88.00
2. ความสามารถทางภาษาด้านการฟังและการพูดของเด็กอนุบาลปีที่ 3 มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น
ทุกด้าน ดังนี้
2.1 เมื่อใช้นิทานประกอบภาพ พัฒนาความสามารถทางภาษา ของเด็กอนุบาลปีที่ 3 ด้านความเข้าใจเรื่องราวในการฟัง พบว่าการทดสอบหลังเรียน คิดเป็นร้อยละ 82.40 และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างเกณฑ์ กับคะแนนทดสอบหลังเรียนของเด็กพบว่า คะแนนสอบหลังเรียน สูงกว่าเกณฑ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนด้านการพูดเล่าเรื่องสัมพันธ์กับภาพ การทดสอบหลังเรียน คิดเป็นร้อยละ 91.40 และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างเกณฑ์กับคะแนนทดสอบหลังเรียนของเด็กพบว่า คะแนนทดสอบหลังเรียนของเด็กอนุบาลปีที่ 3 สูงกว่าเกณฑ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2.2 เมื่อใช้เกมฝึกทักษะทางภาษา พัฒนาความสามารถทางภาษาของเด็กอนุบาลปีที่ 3
ด้านความเข้าใจคำสั่งและปฏิบัติตาม พบว่าการทดสอบหลังเรียน คิดเป็นร้อยละ 88.00 และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างเกณฑ์กับคะแนนทดสอบหลังเรียนของเด็กพบว่า คะแนนทดสอบหลังเรียน สูงกว่าเกณฑ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. เด็กอนุบาลปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดการเรียนการสอนด้วยนิทานประกอบภาพและเกมฝึกทักษะทางภาษา โดยภาพรวมนักเรียนมีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก