รายงานการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์เรื่อง
ชื่อเรื่อง : รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา
ประกอบการใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มเกมการแข่งขัน สำหรับนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านโคกเมือง
ชื่อผู้ศึกษา : นางวิไลพร ดอกแก้ว
ปีที่ศึกษา : 2556
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะ
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา ประกอบการใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มเกมการ
แข่งขัน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ตามเกณฑ์ประสิทธิภาพ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนี
ประสิทธิผลทางการเรียน เรื่อง เวลา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จากการเรียนโดยใช้แบบฝึก
เสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา ประกอบการใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่ม
เกมการแข่งขัน 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนโดย
ใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา ประกอบการใช้เทคนิคการสอน
แบบกลุ่มเกมการแข่งขัน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่กำลังเรียน ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 โรงเรียนบ้านโคกเมือง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1 จำนวน 22 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) เพราะนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีจำนวน 1 ห้องเรียนโดยผู้ศึกษาเป็นครูผู้สอน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และเป็นครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 5 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา ประกอบการใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มเกมการแข่งขัน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 15 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระ การเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งเป็นแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบแบบ 3 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าความยาก ระหว่าง 0.33-0.76 ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.38 - 0.78 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.85 และ แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนโดยการใช้ แบบฝึกเสริมทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 20 ข้อ ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ อยู่ระหว่าง 0.36-0.78 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .90
สรุปผลการศึกษา
1. แบบฝึกเสริมทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา ประกอบการใช้
เทคนิคการสอนแบบกลุ่มเกมการแข่งขัน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ
เท่ากับ 85.29/85.15 มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลทางการเรียน เรื่อง เวลา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จากการ
เรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา ประกอบการใช้เทคนิค
การสอนแบบกลุ่มเกมการแข่งขัน มีค่าเท่ากับ 0.7481 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นหลังเรียนคิด
เป็นร้อยละ 74.81
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา ประกอบการใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มเกมการแข่งขัน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เฉลี่ยโดยรวมมีค่าเท่ากับ 4.41 ซึ่งอยู่ในระดับมาก โดยพบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจ ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.50 และมีความ พึงพอใจด้านการวัดผลและประเมินผลน้อยที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.24
ประกอบการใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มเกมการแข่งขัน สำหรับนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านโคกเมือง
ชื่อผู้ศึกษา : นางวิไลพร ดอกแก้ว
ปีที่ศึกษา : 2556
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะ
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา ประกอบการใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มเกมการ
แข่งขัน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ตามเกณฑ์ประสิทธิภาพ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนี
ประสิทธิผลทางการเรียน เรื่อง เวลา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จากการเรียนโดยใช้แบบฝึก
เสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา ประกอบการใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่ม
เกมการแข่งขัน 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนโดย
ใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา ประกอบการใช้เทคนิคการสอน
แบบกลุ่มเกมการแข่งขัน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่กำลังเรียน ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 โรงเรียนบ้านโคกเมือง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1 จำนวน 22 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) เพราะนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีจำนวน 1 ห้องเรียนโดยผู้ศึกษาเป็นครูผู้สอน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และเป็นครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 5 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา ประกอบการใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มเกมการแข่งขัน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 15 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระ การเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งเป็นแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบแบบ 3 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าความยาก ระหว่าง 0.33-0.76 ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.38 - 0.78 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.85 และ แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนโดยการใช้ แบบฝึกเสริมทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 20 ข้อ ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ อยู่ระหว่าง 0.36-0.78 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .90
สรุปผลการศึกษา
1. แบบฝึกเสริมทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา ประกอบการใช้
เทคนิคการสอนแบบกลุ่มเกมการแข่งขัน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ
เท่ากับ 85.29/85.15 มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลทางการเรียน เรื่อง เวลา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จากการ
เรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา ประกอบการใช้เทคนิค
การสอนแบบกลุ่มเกมการแข่งขัน มีค่าเท่ากับ 0.7481 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นหลังเรียนคิด
เป็นร้อยละ 74.81
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา ประกอบการใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มเกมการแข่งขัน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เฉลี่ยโดยรวมมีค่าเท่ากับ 4.41 ซึ่งอยู่ในระดับมาก โดยพบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจ ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.50 และมีความ พึงพอใจด้านการวัดผลและประเมินผลน้อยที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.24