รายงานการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น
ชื่อผู้จัดทำรายงาน นางนฤมล สุธาพรต ตำแหน่ง ครูวิทยฐานะ ชำนาญการ โรงเรียนพิชัย อำเภอพิชัย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39
ปีการศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80
ที่กำหนดไว้ เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังเรียน โดยใช้แบบฝึก
ทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และเพื่อศึกษาความพึงพอใจ
ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงพัฒนา แบบ One Group Pretest-Posttest Design กลุ่มตัวอย่าง
ที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/6 โรงเรียนพิชัย อำเภอพิชัย สำนักงาน
เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 41 คน ซึ่งได้มา
โดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ประกอบด้วย แบบฝึก
ทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 5 เล่ม แบบทดสอบ
วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ
และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์
เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale)
จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)
ค่าการทดสอบแบบที (t-test) และค่าประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง
ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ด้านกระบวนการและด้านผลลัพธ์ (E1/E2) วิเคราะห์ข้อมูล
โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ
ผลการศึกษาพบว่า
1. แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่า
ประสิทธิภาพ E1 / E2 เท่ากับ 86.24/85.53 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการเรียนรู้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์
เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
3. นักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.68
และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.56