KRUWANDEE

ชื่อเรื่อง        ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ปฏิบัติขลุ่ยรีคอร์เดอร์ โดยใช้การสอนดนตรีตามแบบคาร์ออร์ฟร่วมกับวิธีการสอนแบบร่วมมือ(STAD) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ผู้รายงาน                     นายอดิศัย น้อยวิลัย
ตำแหน่ง                     ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
ปีการศึกษา                    2557
บทคัดย่อ
    การวิจัยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) หาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ปฏิบัติขลุ่ยรีคอร์เดอร์ โดยใช้การสอนดนตรีตามแบบคาร์ออฟร่วมกับวิธีการสอนแบบร่วมมือ(STAD) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ปฏิบัติขลุ่ยรีคอร์เดอร์ โดยใช้การสอนดนตรีตามแบบคาร์ออฟร่วมกับวิธีการสอนแบบร่วมมือ(STAD) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 3) ศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ปฏิบัติขลุ่ยรีคอร์เดอร์ โดยใช้การสอนดนตรีตามแบบคาร์ออฟร่วมกับวิธีการสอนแบบร่วมมือ(STAD) กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 โรงเรียนเทศบาลวัดทรงธรรม อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 1 ห้อง มีนักเรียนจำนวน 36 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ปฏิบัติขลุ่ยรีคอร์เดอร์ โดยใช้การสอนดนตรีตามแบบคาร์ออฟร่วมกับวิธีการสอนแบบร่วมมือ (STAD) จำนวน 9 แผน รวม 19 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน และ 3) แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ปฏิบัติขลุ่ยรีคอร์เดอร์ โดยใช้การสอนดนตรีตามแบบคาร์ออฟร่วมกับวิธีการสอนแบบร่วมมือ(STAD) วิเคราะห์ข้อมูลโดย การหาค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสถิติ t-test แบบไม่อิสระจากกัน (Dependent Samples)
    ผลการวิจัยพบว่า
    1.    ประสิทธิภาพของแผนการกิจกรรมการเรียนรู้ปฏิบัติขลุ่ยรีคอร์เดอร์ โดยใช้การสอนดนตรีตามแบบคาร์ออฟร่วมกับวิธีการสอนแบบร่วมมือ(STAD) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีค่าเท่ากับ 84.60/87.13 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
    2.    ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ปฏิบัติขลุ่ยรีคอร์เดอร์ โดยใช้การสอนดนตรีตามแบบคาร์ออฟร่วมกับวิธีการสอนแบบร่วมมือ(STAD)สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
    3.    ความคิดเห็นของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ปฏิบัติขลุ่ยรีคอร์เดอร์ โดยใช้การสอนดนตรีตามแบบคาร์ออฟร่วมกับวิธีการสอนแบบร่วมมือ(STAD)