การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องลำดับ
ชื่อ การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องลำดับ ของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค TAI
ผู้ศึกษา นางสาวรุจิอร รักใหม่
กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์
ปีที่ศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การศึกษาการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องลำดับของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้เทคนิค TAI โรงเรียนสตรีพัทลุงครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อสร้างและพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องลำดับของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสตรีพัทลุงให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน E1/E2 เท่ากับ 75/75 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่องลำดับของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค TAI 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการเรียนเรื่องลำดับ ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค TAI
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวนนักเรียนทั้งหมด 44 คน โรงเรียนสตรีพัทลุง อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 ซึ่งได้จากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling)
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ดังนี้ 1)คู่มือการจัดการเรียนรู้ เรื่องลำดับของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 11 แผน 2) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องลำดับของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 3 ชุด 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องลำดับ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งเป็นแบบทดสอบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการเรียนเรื่องลำดับ ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค TAI
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(SD.) ค่าร้อยละค่าความยากง่าย (p) ค่าอำนาจจำแนก(r) ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทดสอบค่า T (t - test) และสถิติที่ใช้วิเคราะห์ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะตามเกณฑ์มาตรฐาน (E1 / E2)ผลการศึกษาพบว่า
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องลำดับของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสตรีพัทลุงให้มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 78.31/78.26 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่วางไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องลำดับของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค TAI หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน คือมีคะแนนก่อนเรียน เฉลี่ยร้อยละ 55.53และคะแนนหลังเรียนเฉลี่ยร้อยละ78.26 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
3.ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการเรียนเรื่องลำดับ ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค TAI ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.65
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค TAI
ผู้ศึกษา นางสาวรุจิอร รักใหม่
กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์
ปีที่ศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การศึกษาการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องลำดับของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้เทคนิค TAI โรงเรียนสตรีพัทลุงครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อสร้างและพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องลำดับของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสตรีพัทลุงให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน E1/E2 เท่ากับ 75/75 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่องลำดับของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค TAI 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการเรียนเรื่องลำดับ ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค TAI
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวนนักเรียนทั้งหมด 44 คน โรงเรียนสตรีพัทลุง อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 ซึ่งได้จากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling)
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ดังนี้ 1)คู่มือการจัดการเรียนรู้ เรื่องลำดับของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 11 แผน 2) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องลำดับของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 3 ชุด 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องลำดับ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งเป็นแบบทดสอบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการเรียนเรื่องลำดับ ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค TAI
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(SD.) ค่าร้อยละค่าความยากง่าย (p) ค่าอำนาจจำแนก(r) ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทดสอบค่า T (t - test) และสถิติที่ใช้วิเคราะห์ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะตามเกณฑ์มาตรฐาน (E1 / E2)ผลการศึกษาพบว่า
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องลำดับของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสตรีพัทลุงให้มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 78.31/78.26 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่วางไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องลำดับของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค TAI หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน คือมีคะแนนก่อนเรียน เฉลี่ยร้อยละ 55.53และคะแนนหลังเรียนเฉลี่ยร้อยละ78.26 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
3.ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการเรียนเรื่องลำดับ ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค TAI ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.65