รายงานผลการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบสมการ
รายงานผลการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบสมการ วิชาคณิตศาสตร์ เพิ่มเติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๖ นครเชียงราย โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ 4 MAT
ในการศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบสมการ วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๖ นครเชียงราย โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ 4 MAT โดยให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบสมการ วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม และมีผลสัมฤทธิ์สูงกว่าเกณฑ์ที่โรงเรียนกำหนด และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบสมการ วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังจากที่ผู้ศึกษาได้นำแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบสมการ วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๖ นครเชียงราย โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ 4 MAT ไปปรับปรุงแก้ไขแล้ว จึงนำไปทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการศึกษา ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ห้องที่ 11 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนเทศบาล ๖ นครเชียงราย สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงราย จำนวน 32 คน โดยใช้การสุ่มอย่างง่าย (Simple random sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม เครื่องมือ ที่ใช้ในการศึกษาที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบสมการ วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๖ นครเชียงราย โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ 4 MAT จำนวน 7 แผน แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบสมการ วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๖ นครเชียงราย โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ 4 MAT แบ่งเนื้อหาเป็น 5 เล่ม โดยวิเคราะห์ข้อมูลหาประสิทธิภาพ E1/E2 ตามเกณฑ์ที่กำหนด 75/75 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ที่มีความเที่ยง 0.82 โดยการเปรียบเทียบร้อยละของคะแนน และเปรียบเทียบโดยการใช้สถิติแบบ t-test แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบสมการ วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๖ นครเชียงราย โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ 4 MAT จำนวน 15 ข้อ กำหนดข้อมูลตัวชี้วัด โดยใช้เกณฑ์ พอใจมากที่สุด พอใจมาก พอใจปานกลาง พอใจน้อย พอใจน้อยที่สุด ผู้ศึกษาได้นำเสนอข้อมูล ที่ได้จากการทดลองมาวิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
สรุปผลการศึกษา
จากการสร้างแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบสมการ วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๖ นครเชียงราย โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ 4 MAT สรุปผลการศึกษา ได้ดังนี้
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบสมการ วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๖ นครเชียงราย โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ 4 MAT ที่สร้างขึ้น โดยรวมเฉลี่ย ได้ E1/E2 เท่ากับ 77.94/75.73 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 75/75
2. ผลของการศึกษาคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบสมการ วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๖ นครเชียงราย โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ 4 MAT หลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 22.72 (S.D. = 2.32) คิดเป็นร้อยละ 75.73 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่โรงเรียนตั้งไว้ ร้อยละ 70 และเมื่อเปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบสมการ วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๖ นครเชียงราย โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ 4 MAT พบว่า มีคะแนนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบสมการ วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๖ นครเชียงราย โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ 4 MAT โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับพอใจมากที่สุด ( = 4.53, S.D. = .31)
ในการศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบสมการ วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๖ นครเชียงราย โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ 4 MAT โดยให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบสมการ วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม และมีผลสัมฤทธิ์สูงกว่าเกณฑ์ที่โรงเรียนกำหนด และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบสมการ วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังจากที่ผู้ศึกษาได้นำแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบสมการ วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๖ นครเชียงราย โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ 4 MAT ไปปรับปรุงแก้ไขแล้ว จึงนำไปทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการศึกษา ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ห้องที่ 11 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนเทศบาล ๖ นครเชียงราย สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงราย จำนวน 32 คน โดยใช้การสุ่มอย่างง่าย (Simple random sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม เครื่องมือ ที่ใช้ในการศึกษาที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบสมการ วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๖ นครเชียงราย โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ 4 MAT จำนวน 7 แผน แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบสมการ วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๖ นครเชียงราย โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ 4 MAT แบ่งเนื้อหาเป็น 5 เล่ม โดยวิเคราะห์ข้อมูลหาประสิทธิภาพ E1/E2 ตามเกณฑ์ที่กำหนด 75/75 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ที่มีความเที่ยง 0.82 โดยการเปรียบเทียบร้อยละของคะแนน และเปรียบเทียบโดยการใช้สถิติแบบ t-test แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบสมการ วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๖ นครเชียงราย โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ 4 MAT จำนวน 15 ข้อ กำหนดข้อมูลตัวชี้วัด โดยใช้เกณฑ์ พอใจมากที่สุด พอใจมาก พอใจปานกลาง พอใจน้อย พอใจน้อยที่สุด ผู้ศึกษาได้นำเสนอข้อมูล ที่ได้จากการทดลองมาวิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
สรุปผลการศึกษา
จากการสร้างแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบสมการ วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๖ นครเชียงราย โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ 4 MAT สรุปผลการศึกษา ได้ดังนี้
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบสมการ วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๖ นครเชียงราย โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ 4 MAT ที่สร้างขึ้น โดยรวมเฉลี่ย ได้ E1/E2 เท่ากับ 77.94/75.73 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 75/75
2. ผลของการศึกษาคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบสมการ วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๖ นครเชียงราย โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ 4 MAT หลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 22.72 (S.D. = 2.32) คิดเป็นร้อยละ 75.73 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่โรงเรียนตั้งไว้ ร้อยละ 70 และเมื่อเปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบสมการ วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๖ นครเชียงราย โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ 4 MAT พบว่า มีคะแนนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบสมการ วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๖ นครเชียงราย โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ 4 MAT โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับพอใจมากที่สุด ( = 4.53, S.D. = .31)