การสร้างแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์เรื่อง การหาร เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ท
เรื่อง การสร้างแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์เรื่อง การหาร เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ
นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ชื่อผู้ศึกษา นางรจนา เทพกร
ปีที่ทำการศึกษา 2557
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ สร้างแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการหาร
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80และเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ก่อนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/6
ภาคเรียนที่ 2ปีการศึกษา 2557โรงเรียนอนุบาลสงขลา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา จำนวน 44 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องการหาร แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการหาร และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การหารชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 สถิติที่นำมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลครั้งนี้คือ ค่าเฉลี่ย( ) ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และสถิติทดสอบที
( t- testdependent sample )
ผลการศึกษาพบว่า แบบฝึกคณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้ศึกษา
พัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.43/83.03ซึ่งเป็นไป 3 ตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนด และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนเรื่อง การหารชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่กำหนด ระดับ 0.01
นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ชื่อผู้ศึกษา นางรจนา เทพกร
ปีที่ทำการศึกษา 2557
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ สร้างแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการหาร
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80และเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ก่อนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/6
ภาคเรียนที่ 2ปีการศึกษา 2557โรงเรียนอนุบาลสงขลา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา จำนวน 44 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องการหาร แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการหาร และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การหารชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 สถิติที่นำมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลครั้งนี้คือ ค่าเฉลี่ย( ) ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และสถิติทดสอบที
( t- testdependent sample )
ผลการศึกษาพบว่า แบบฝึกคณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้ศึกษา
พัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.43/83.03ซึ่งเป็นไป 3 ตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนด และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนเรื่อง การหารชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่กำหนด ระดับ 0.01