LASTEST NEWS

29 มี.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 29 มี.ค. 2567สพม.ขอนแก่น รับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2567 จำนวน 19 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 5-11 เม.ย.2567 29 มี.ค. 2567สพป.ขอนแก่น เขต 5 รับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2567 จำนวน 13 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 5-11 เม.ย.2567 29 มี.ค. 2567สพป.ขอนแก่น เขต 4 รับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2567 จำนวน 13 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 5-11 เม.ย.2567 29 มี.ค. 2567สพป.ขอนแก่น เขต 3 รับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2567 จำนวน 16 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 5-11 เม.ย.2567 29 มี.ค. 2567สพป.ขอนแก่น เขต 2 รับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2567 จำนวน 12 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 5-11 เม.ย.2567 29 มี.ค. 2567สพป.ขอนแก่น เขต 1 รับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2567 จำนวน 15 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 5-11 เม.ย.2567 29 มี.ค. 2567อ.ก.ค.ศ.สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ รับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2567 จำนวน 901 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 5-11 เม.ย.2567 29 มี.ค. 2567สพม.กำแพงเพชร รับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2567 จำนวน 2 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 5-11 เม.ย.2567 29 มี.ค. 2567สพป.กำแพงเพชร เขต 2 รับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2567 จำนวน 9 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 5-11 เม.ย.2567

รายงานผลการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนบ้านปาง

usericon

รายงานผลการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนบ้านปาง
ชื่อเรื่อง    รายงานผลการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนบ้านปางสา อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน
ผู้ประเมินโครงการ    นายวิชกร ดวงแก้ว
ปีที่ประเมินโครงการ     ปีการศึกษา 2555
บทสรุปสำหรับผู้บริหาร
    รายงานผลการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนบ้านปางสา มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อประเมินด้านสภาวะแวดล้อมโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนบ้านปางสา 2) เพื่อประเมินด้านปัจจัยนำเข้าโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนบ้านปางสา 3) เพื่อประเมินด้านกระบวนการโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนบ้านปางสา และ 4)    เพื่อประเมินด้านผลผลิตโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนบ้านปางสา ปีการศึกษา 2555 โดยใช้รูปแบบซิปป์(CIPP Model) ประชากร ประกอบด้วย นักเรียน จำนวน 33 คน ครู จำนวน 3 คน และผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบประเมินแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 4 ฉบับ ฉบับที่ 1 แบบประเมินด้านบริบทหรือ สภาวะแวดล้อม ฉบับที่ 2 แบบประเมินด้านปัจจัยพื้นฐาน ฉบับที่ 3 แบบประเมินด้านกระบวนการ ฉบับที่ 4 แบบประเมินด้านผลผลิต ประกอบด้วย ชุดที่ 1 ประเมินกิจกรรมโครงการส่งเสริมนิสัย รักการอ่าน ชุดที่ 2 ประเมินรักการอ่าน ชุดที่ 3 ประเมินพฤติกรรมนักเรียน ชุดที่ 4 ประเมินความพึงพอใจของนักเรียน ชุดที่ 5 ประเมินความพึงพอใจครูและผู้ปกครองนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
    ผลการประเมินพบว่า
    1.     ด้านบริบทหรือสภาวะแวดล้อม ครูและผู้ปกครองนักเรียนมีความคิดเห็นว่า บริบทหรือสภาวะแวดล้อมของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.63 ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ การกำหนดหลักการของโครงการ สอดคล้องกับนโยบายของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นโยบายของโรงเรียน การกำหนดวัตถุประสงค์สอดคล้องกับปัญหา และหลักการของโครงการ และพบว่า การกำหนดวัตถุประสงค์ เป้าหมาย หลักการของโครงการ มีความสอดคล้องกัน ประกอบกับมีการเตรียมการภายในของสถานศึกษาอยู่ในระดับมาก
    2.    ด้านปัจจัยพื้นฐานโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.54 ครูและผู้ปกครองนักเรียนมีความเห็นว่า รายการที่มีความพร้อมซึ่งมีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ มีครูและบุคลากรรับผิดชอบโครงการเพียงพอ มีนโยบายและวิสัยทัศน์ของสถานศึกษาสนับสนุน มีวัสดุ อุปกรณ์ สื่อ และอาคารสถานที่เพียงพอ อยู่ในระดับมากที่สุด
    3.     ด้านกระบวนการ โครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ครูและผู้ปกครองนักเรียน มีความคิดเห็นว่าด้านกระบวนการโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.57 ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ มีปฏิทินการนิเทศภายใน มีการประเมินการทำงานมีคำสั่งแต่งตั้งผู้รับผิดชอบ และมีการให้คำปรึกษาแนะนำ
    4.    ด้านผลผลิต
        4.1 ผลการประเมินกิจกรรมโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โดยรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.45 เรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ดังนี้ กิจกรรมวันสำคัญ กิจกรรมว่างจากงานอ่านทุกคน กิจกรรมเสียงตามสาย กิจกรรมหมอภาษา และกิจกรรมพี่ช่วยน้องรักการอ่าน
        4.2    ผลการประเมินนิสัยรักการอ่านของนักเรียน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.55 ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ให้ความสำคัญของการอ่าน อ่านอย่างต่อเนื่อง ใช้เวลาว่าง ให้เป็นประโยชน์โดยการอ่าน อ่านหนังสือได้หลายประเภท และอ่านหนังสือได้จำนวนหน้าเพิ่มขึ้น อยู่ในระดับมากที่สุด
        4.3    ผลการประเมินพฤติกรรมการเรียนของนักเรียนโดยรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.46 ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ นำการอ่านมาเป็นกิจวัตรประจำวัน นักเรียนมีสมุดบันทึก การอ่าน และเข้าเรียนตรงเวลา
        4.4    ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนต่อโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โดยรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.47 ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ พึงพอใจต่อเครือข่ายส่งเสริม การอ่านภายใน พึงพอใจกิจกรรมว่างจากงานอ่านทุกคน และกิจกรรมโครงการมีความเหมาะสม
        4.5    ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้ปกครอง นักเรียนต่อโครงการส่งเสริมนิสัย รักการอ่าน ผู้ปกครองนักเรียนที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการมีความคิดเห็นว่า มีความพึงพอใจ ต่อโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโดยรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.40 ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือการมีส่วนร่วมของนักเรียน ความพึงพอใจต่อเครือข่ายส่งเสริมการอ่านภายในโรงเรียนและ ความพึงพอใจกิจกรรมว่างจากงานอ่านทุกคน อยู่ในระดับมาก
phong2517 18 ก.ย. 2556 เวลา 18:40 น. 0 3,245
ร่วมแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^