การพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่4
ชื่อเรื่องวิจัย : การพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ผู้รายงาน : นางสาวเกศินี นามวิสัย
ปีที่วิจัย : 2557
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กับเกณฑ์ที่กำหนด ร้อยละ 80 และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนบ้านสว่าง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 จำนวน 17 คน ได้มาโดยวิธีเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เนื่องจากเป็นนักเรียนที่ผู้รายงานรับมอบหมายในการจัดการเรียนการสอน และภายในห้องเรียนมีนักเรียนทุกระดับสติปัญญา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 5 รายการ คือ แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการสอนวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่องการคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 15 แผน แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 15 ชุด แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนในแบบฝึกทักษะแต่ละชุด จำนวน 15 ชุด ชุดละ 10 ข้อ เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scales) 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะ การทดสอบสมมติฐาน ใช้ t-test One Sample Group และ t-test Dependent Sample Group
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1. แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้รายงานสร้างขึ้น
มีประสิทธิภาพ 81.53/81.18 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.666 หรือร้อยละ 66.60 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ของค่าดัชนีประสิทธิผล คือ 0.50 หรือร้อยละ 50 นั่นคือ นักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 66.60 หลังจากเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ที่ผู้รายงานสร้างขึ้น มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.494 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.859 แสดงว่า
มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
สรุปได้ว่าแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้รายงานสร้างขึ้นสามารถทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น และครูสามารถนำแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ไปใช้เป็นสื่อในการสอนคณิตศาสตร์
ผู้รายงาน : นางสาวเกศินี นามวิสัย
ปีที่วิจัย : 2557
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กับเกณฑ์ที่กำหนด ร้อยละ 80 และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนบ้านสว่าง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 จำนวน 17 คน ได้มาโดยวิธีเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เนื่องจากเป็นนักเรียนที่ผู้รายงานรับมอบหมายในการจัดการเรียนการสอน และภายในห้องเรียนมีนักเรียนทุกระดับสติปัญญา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 5 รายการ คือ แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการสอนวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่องการคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 15 แผน แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 15 ชุด แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนในแบบฝึกทักษะแต่ละชุด จำนวน 15 ชุด ชุดละ 10 ข้อ เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scales) 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะ การทดสอบสมมติฐาน ใช้ t-test One Sample Group และ t-test Dependent Sample Group
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1. แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้รายงานสร้างขึ้น
มีประสิทธิภาพ 81.53/81.18 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.666 หรือร้อยละ 66.60 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ของค่าดัชนีประสิทธิผล คือ 0.50 หรือร้อยละ 50 นั่นคือ นักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 66.60 หลังจากเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ที่ผู้รายงานสร้างขึ้น มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.494 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.859 แสดงว่า
มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
สรุปได้ว่าแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้รายงานสร้างขึ้นสามารถทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น และครูสามารถนำแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ไปใช้เป็นสื่อในการสอนคณิตศาสตร์