รายงานการใช้สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง มวยไทย
ชื่อเรื่อง : รายงานการใช้สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง มวยไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา
และพลศึกษา (พลศึกษา) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
โรงเรียนสันกำแพงคันธาอนุสรณ์ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่
ชื่อผู้ศึกษา : นายชัยณรงค์ ชัยสาร ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ
โรงเรียนสันกำแพงคันธาอนุสรณ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
เชียงใหม่ เขต 1
ปีที่ศึกษา : 2557
บทคัดย่อ
รายงานการใช้สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง มวยไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ในการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของสื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง มวยไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยเทียบกับเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ในการใช้สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง มวยไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังการใช้สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสันกำแพงคันธาอนุสรณ์ 3)เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสันกำแพงคันธาอนุสรณ์ ที่มีต่อการใช้สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง มวยไทย ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสันกำแพงคันธาอนุสรณ์ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่
ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 มีจำนวนนักเรียนทั้งหมด 25 คน นักเรียนชาย 9 คน นักเรียนหญิง 16 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง มวยไทย จำนวน 1 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 2 เล่มรวม 17 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
เรื่อง มวยไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของการใช้สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด (80/80) กล่าวคือ มีประสิทธิภาพ 88.38/84.10 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ในการใช้สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง มวยไทย ก่อนเรียนคิดเป็นร้อยละ 49.60 และหลังเรียนคิดเป็นร้อยละ 88.37 เมื่อนำผลมาทดสอบความแตกต่างพบว่าหลังการใช้สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอนหลังเรียนสูงกว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนการเรียน
3. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
เรื่อง มวยไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย µ เท่ากับ 4.62 มีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน σ เท่ากับ 0.46
และพลศึกษา (พลศึกษา) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
โรงเรียนสันกำแพงคันธาอนุสรณ์ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่
ชื่อผู้ศึกษา : นายชัยณรงค์ ชัยสาร ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ
โรงเรียนสันกำแพงคันธาอนุสรณ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
เชียงใหม่ เขต 1
ปีที่ศึกษา : 2557
บทคัดย่อ
รายงานการใช้สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง มวยไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ในการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของสื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง มวยไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยเทียบกับเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ในการใช้สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง มวยไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังการใช้สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสันกำแพงคันธาอนุสรณ์ 3)เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสันกำแพงคันธาอนุสรณ์ ที่มีต่อการใช้สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง มวยไทย ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสันกำแพงคันธาอนุสรณ์ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่
ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 มีจำนวนนักเรียนทั้งหมด 25 คน นักเรียนชาย 9 คน นักเรียนหญิง 16 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง มวยไทย จำนวน 1 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 2 เล่มรวม 17 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
เรื่อง มวยไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของการใช้สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด (80/80) กล่าวคือ มีประสิทธิภาพ 88.38/84.10 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ในการใช้สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง มวยไทย ก่อนเรียนคิดเป็นร้อยละ 49.60 และหลังเรียนคิดเป็นร้อยละ 88.37 เมื่อนำผลมาทดสอบความแตกต่างพบว่าหลังการใช้สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอนหลังเรียนสูงกว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนการเรียน
3. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
เรื่อง มวยไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย µ เท่ากับ 4.62 มีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน σ เท่ากับ 0.46