กินตายวัย ให้พอดี
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง กินตามวัยให้พอดี กลุ่มสาระการ เรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา สาระที่ 4 การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนา บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง กินตามวัยให้พอดีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่3ให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพตามเกณฑ์80/80 เพื่อศึกษาค่า ดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียนและ เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียน บ้านหลวง อำเภอบ้านหลวง จังหวัดน่าน จำนวน27คนโดยวิธีโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม( Custer Random Sampling ) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องกินตามวัยให้พอดี คู่มือการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน แผนการจัด การเรียนรู้จำนวน 15 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นปรนัยเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 20ข้อ ค่าความยากง่ายตั้งแต่ 0.50ถึง0.75 และค่าจำแนกตั้งแต่ 0.24ถึง0.40 ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบ ทั้งสองฉบับเท่ากับ0.79 และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เป็นแบบประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 12 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน และค่าร้อยละ
ผลการวิจัยพบว่า
1.บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง กินตามวัยให้พอดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและ พลศึกษา สาระที่ 4 การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่พัฒนามีประสิทธิภาพเท่ากับ 80.74 / 81.85 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ประสิทธิภาพที่กำหนด 80 / 80
2.ค่าดัชนีประสิทธิผล ของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง กินตามวัยให้พอดี กลุ่มสาระการ เรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา สาระที่ 4 การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่พัฒนาขึ้นมีค่าเท่ากับ 0.670 แสดงให้เห็นว่า การใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน มีคุณภาพ ทำให้ผู้เรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 67.00
3.นักเรียนที่เรียนด้วย บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องกินตามวัยให้พอดี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่3
มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน โดยมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนคิดเป็นร้อยละ
81.85 ก่อนเรียนคิดเป็นร้อยละ 45.00
4. ผลการประเมินความพึงพอใจที่มีต่อ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องกินตามวัยให้พอดี
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 นักเรียนมีความพึงพอใจ โดยภาพรวมอยู่ในระดับความพึงพอใจมาก ที่ค่าเฉลี่ย
เท่ากับ 4.40
โดยสรุป บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง กินตามวัยให้พอดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและ พลศึกษา สาระที่4 การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค ชั้นมัธยมศึกษาปีที่3 ที่สร้างขึ้น อย่างเป็นระบบ โดยผ่านกระบวนการขั้นตอน ตามหลักการวิธีการ และผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ และการทดลองใช้การจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญซึ่งจะเป็นวิธีการหนึ่งที่สามารถแก้ไข ปัญหาและพัฒนาผู้เรียนให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นเกิดการเรียนรู้และทัศนคติที่ดีต่อ วิชาที่เรียน บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่สร้างขึ้นนี้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่เหมาะสมสามารถนำไปใช้ใน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้และนำไปประยุกต์ใช้ในการเรียนวิชาอื่นๆได้
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง กินตามวัยให้พอดี กลุ่มสาระการ เรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา สาระที่ 4 การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนา บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง กินตามวัยให้พอดีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่3ให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพตามเกณฑ์80/80 เพื่อศึกษาค่า ดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียนและ เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียน บ้านหลวง อำเภอบ้านหลวง จังหวัดน่าน จำนวน27คนโดยวิธีโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม( Custer Random Sampling ) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องกินตามวัยให้พอดี คู่มือการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน แผนการจัด การเรียนรู้จำนวน 15 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นปรนัยเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 20ข้อ ค่าความยากง่ายตั้งแต่ 0.50ถึง0.75 และค่าจำแนกตั้งแต่ 0.24ถึง0.40 ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบ ทั้งสองฉบับเท่ากับ0.79 และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เป็นแบบประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 12 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน และค่าร้อยละ
ผลการวิจัยพบว่า
1.บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง กินตามวัยให้พอดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและ พลศึกษา สาระที่ 4 การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่พัฒนามีประสิทธิภาพเท่ากับ 80.74 / 81.85 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ประสิทธิภาพที่กำหนด 80 / 80
2.ค่าดัชนีประสิทธิผล ของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง กินตามวัยให้พอดี กลุ่มสาระการ เรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา สาระที่ 4 การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่พัฒนาขึ้นมีค่าเท่ากับ 0.670 แสดงให้เห็นว่า การใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน มีคุณภาพ ทำให้ผู้เรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 67.00
3.นักเรียนที่เรียนด้วย บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องกินตามวัยให้พอดี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่3
มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน โดยมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนคิดเป็นร้อยละ
81.85 ก่อนเรียนคิดเป็นร้อยละ 45.00
4. ผลการประเมินความพึงพอใจที่มีต่อ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องกินตามวัยให้พอดี
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 นักเรียนมีความพึงพอใจ โดยภาพรวมอยู่ในระดับความพึงพอใจมาก ที่ค่าเฉลี่ย
เท่ากับ 4.40
โดยสรุป บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง กินตามวัยให้พอดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและ พลศึกษา สาระที่4 การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค ชั้นมัธยมศึกษาปีที่3 ที่สร้างขึ้น อย่างเป็นระบบ โดยผ่านกระบวนการขั้นตอน ตามหลักการวิธีการ และผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ และการทดลองใช้การจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญซึ่งจะเป็นวิธีการหนึ่งที่สามารถแก้ไข ปัญหาและพัฒนาผู้เรียนให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นเกิดการเรียนรู้และทัศนคติที่ดีต่อ วิชาที่เรียน บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่สร้างขึ้นนี้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่เหมาะสมสามารถนำไปใช้ใน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้และนำไปประยุกต์ใช้ในการเรียนวิชาอื่นๆได้