KRUWANDEE

ชื่อรายงาน การพัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่อง ไตรยางศ์และการผันวรรณยุกต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้
ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓
ชื่อผู้ศึกษา ปราณี ยูโซะ
ปีที่ศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๕

บทคัดย่อ

การพัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่อง ไตรยางศ์และการผันวรรณยุกต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑) หาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ เรื่อง ไตรยางศ์ และการผันวรรณยุกต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ๒) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง ไตรยางศ์และการผันวรรณยุกต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ และ๓) ศึกษาความพึงพอใจ ของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง ไตรยางค์และการผันวรรณยุกต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษา ปีที่ ๓ กลุ่มเป้าหมายในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนเทศบาล ๓ บ้านปาตาตีมอ เทศบาลตำบลตะลุบัน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๕ จำนวน ๑๙ คน เนื่องจากนักเรียนในชั้นนี้มีปัญหาในการเรียนเรื่องไตรยางศ์และการผันวรรณยุกต์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบฝึกทักษะ จำนวน ๒๔ แบบฝึก แผนการจัดการเรียนรู้ ๒๐ แผน ๒๐ ชั่วโมง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ ๔ ตัวเลือก จำนวน ๒๐ ข้อ มีค่าความเชื่อมั่น (KR-๒๐) ๐.๗๑ และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนมีค่าความเชื่อมั่น( ) ๐.๘๑
ผลการวิจัย พบว่า
    ๑. แบบฝึกทักษะ เรื่อง ไตรยางศ์และการผันวรรณยุกต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ มีประสิทธิภาพ เท่ากับ ๘๓.๕๗/๘๓.๔๒ สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ๘๐/๘๐
    ๒. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง ไตรยางศ์และ การผันวรรณยุกต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕
    ๓. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง ไตรยางศ์และการผันวรรณยุกต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ๔.๕๒